คาเฟ่ธรรมชาติแท้ๆ จริงๆ บ้านๆ ที่อยู่แถวบ่อน้ำมันฝาง เป็นจุดพักรถบนเส้นทางเขาที่คดเคี้ยวระหว่าง อ.ฝาง ไป อ.แม่สรวย เป็นจุดพักรถ พักร่าง และพักใจได้อย่างดี ก่อนเดินทางต่อเหมือนได้ชาร์จพลังระหว่างทาง
ใครว่าเที่ยวเหนือต้องเจอแต่คาเฟ่มินิมอล? ลองแวะ “กาแฟบ้านลุงมา” ที่ฝางดูดิ! ไม่ใช่แค่ได้จิบกาแฟฟินๆ วิวหลักล้าน แต่ยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวอาข่าแท้ๆ ที่ปัจจุบันความเจริญเข้าถึงพวกเขาแล้วได้เอาธรรมชาติ พร้อมเมนูอาหารชนเผ่ารสเด็ดที่หาชิมยากในเมืองกรุง เตรียมตัวให้พร้อม… เพราะที่นี่จะทำให้คุณหลงรักจนไม่อยากกลับ!

ถ้าคุณเป็นสายลุย ชอบความท้าทายบนเส้นทางสายหมอก และกำลังมองหาที่พักใจกลางดอยที่ไม่ได้มีดีแค่วิว “กาแฟบ้านลุงมา” คือจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

ร้านนี้โด่งดังใน TikTok ไม่ใช่แค่เพราะบรรยากาศสุดชิลล์ “เจ้าของร้านสาวชาวอาข่า” ที่น่ารักสดใสเป็นแม่เหล็กดึงดูดใจนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะจะบอกให้! โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเธอสวมชุดชาวอาข่า
บรรยากาศทั่วไปของร้าน:
พอขับรถฝ่าเส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด (ที่ต้องใช้สมาธิระดับเซียน แต่คุ้มค่าทุกโค้ง!) มาถึง “กาแฟบ้านลุงมา” สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความเรียบง่ายแต่โคตรมีเสน่ห์ ร้านเป็นบ้านไม้สไตล์ชนเผ่าที่กลมกลืนกับธรรมชาติรอบข้างสุดๆ ไม่ต้องมีแอร์ก็เย็นฉ่ำ เพราะลมธรรมชาติพัดโกรกตลอดเวลา เหมือนเปิดพัดลมเบอร์ 5 ทิ้งไว้ยังไงยังงั้น!
- ด้านนอก : ตัวร้านเป็นอาคารไม้ผสมอิฐทรงหน้าจั่วสูงโปร่ง มีป้ายชื่อร้าน “บ้านลุงมา” เด่นชัด ดูอบอุ่นเป็นกันเอง หน้าร้านอาจจะดูธรรมดา แต่พอเดินเข้ามาเท่านั้นแหละ… คนละเรื่องเลย! นี่แหละประตูสู่อารยธรรม
- โซนเฉลียงรับลม : ทีเด็ดของที่นี่คือโซนเฉลียงกว้างขวางด้านหลังร้าน ที่มองเห็นวิวป่าเขียวขจีได้แบบพาโนรามาสุดลูกหูลูกตา มีทั้งส่วนที่มีหลังคาให้นั่งหลบแดด และส่วนโอเพ่นแอร์ให้รับลมเย็นๆ แบบเต็มปอด โต๊ะเก้าอี้ทำจากไม้และไม้ไผ่ที่จัดวางไว้อย่างเรียบง่าย แต่ดูลงตัวกับธรรมชาติรอบข้างมากๆ นั่งจิบกาแฟเพลินๆ ชมวิวเพลินๆ ลืมไปเลยว่าเคยมีเรื่องวุ่นวายในชีวิต! คือมันฟีลเหมือนนั่งอยู่กลางป่าส่วนตัวที่เงียบสงบขั้นสุด บางมุมมีเก้าอี้หวายแบบชิลล์ๆ ให้นั่งห้อยขาชมวิวไปอีก!

นี่แหละคือเสน่ห์ของ “กาแฟบ้านลุงมา” ที่ไม่ได้เน้นความหรูหรา แต่เน้นความเป็นตัวตน ความเป็นธรรมชาติ ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้กลับบ้านต่างจังหวัดยังไงยังงั้นเลย!
เมนูแบบชาติพันธ์อาข่า

บ้านลุงมา ไม่ได้มีแค่กาแฟ หรือเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังมีเมนูอาหารทั้งพื้นบ้านอาข่า และอาหารพื้นเมืองอีกด้วย อีทเรดาร์ หาเรื่องอยู่แล้ว เน้นไปเลยวันนี้ เราจะกินเมนูอาข่ากัน พร้อมแล้วไป


เราเลือกให้ทางร้านเสริฟ ที่แคร่ไม้ไผ่เฉลียงหลังร้าน อาหารถูกจัดมาร้อนๆ เรียบง่าย ใส่ถาดสังกะสีแบบดั้งเดิม บ้างก็ใส่กระด้ง ปูทับด้วยใบตอง แต่บอกเลยไอ้ง่ายๆ แบบนี้แหละ ที่ร้านหรูๆ ในเมืองอยากทำ แต่หาใบตองไม่ง่าย แต่ที่นี่เหรอ มีเป็นไร่ เอาล่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน ไปดูแต่ละเมนูดีกว่า

ข้าวสวยร้อนๆ ที่ท็อปปิ้งด้วยดอกดาวเรือง มันกินได้
สาบานว่าเพิ่งรู้ และเพิ่งเคยเห็นการเอาดอกดาวเรืองมาจัดจาน และมันกินได้ด้วย ครั้งแรกที่ เห็นจานข้าวก็ต้องร้องว้าว! ข้าวสวยหอมนุ่มเสิร์ฟมาพร้อมดอกดาวเรืองสีเหลืองสดใสโรยหน้ามาแบบสวยๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า “กินได้เหรอ?” “ทำไมต้องดาวเรือง?” ต้องบอกเลยว่าชาวอาข่าเนี่ยเขาใช้ดอกดาวเรืองมาประกอบอาหารและยามาตั้งนานแล้วนะ นอกจากจะกินได้จริงแล้ว ดอกดาวเรืองยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลและความสดใสอีกด้วย คือมาที่นี่ ไม่ได้แค่อิ่มท้องนะ แต่อิ่มใจไปกับวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในทุกจานจริงๆ!

หอมชูผัดไข่
หอมชู หรือที่ชาวอาข่าและคนทางเหนือบางพื้นที่เรียกกันว่า หอมชู หรือ รากซู เป็นพืชล้มลุกที่มีกลิ่นหอมฉุนเป็นเอกลักษณ์คล้ายๆ กลิ่นของกระเทียมผสมกับกุยช่ายเลยทีเดียว ผักชนิดนี้สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทุกส่วน ทั้งรากและใบ แต่ที่นิยมเอามาผัดกับไข่ หรือทำเมนูอื่นๆ ก็มักจะเป็นส่วนของใบที่รูปร่างคล้ายกุยช่าย แต่จะกว้างและหนากว่านิดหน่อย ส่วนรากก็ใช้ได้เช่นกันครับ โดยเฉพาะในเมนูผัด หรือนำไปดองก็อร่อยครับ
“หอมชู” เขาเอามาผัดกับไข่แบบง่ายๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยนะ ใบหอมชูสดๆ จากสวน ผัดกับไข่ร้อนๆ ได้กลิ่นหอมเฉพาะตัว นัวๆ เค็มๆ มันๆ กินกับข้าวสวยคือเพลินมาก เป็นเมนูที่แค่ได้กลิ่นก็รู้เลยว่ามาจากธรรมชาติแท้ๆ ไม่ปรุงแต่งเยอะ

หมูทอดจิ้มพริกมะแขว่น:
เมนูนี้ต้องลอง! หมูทอดชิ้นพอดีคำที่ถูกทอดมาแบบฉ่ำๆ แต่ถ้าได้ฉ่ำกว่านี้อีกนิดนะ รับรองว่าจะจิ้มพริกมะแขว่นได้สะใจกว่าเดิมอีก ตัวพริกมะแขว่นนี่แหละคือพระเอก! ให้กลิ่นหอมๆ เผ็ดซ่าปลายลิ้นแบบเฉพาะตัวของพริกทางเหนือ คือมันไม่ใช่แค่เผ็ดพริกอย่างเดียว แต่มีความหอมของมะแขว่นติดมาด้วย กินแล้วหยุดไม่ได้เลยจริงๆ!

ลาบอาข่าคั่ว:
นี่คือไฮไลต์! ลาบหมูคั่วสไตล์อาข่าที่จัดจ้านถึงเครื่องแบบสุดๆ เครื่องเทศหอมฟุ้ง คลุกเคล้ากับหมูสับคั่วจนได้ที่ เสิร์ฟพร้อมผักสดนานาชนิด ตักเข้าปากคำแรกนะ บอกเลยว่าลิ้นพุ่ง! เผ็ดร้อนถึงใจแต่ก็กลมกล่อม มีความหอมของเครื่องสมุนไพรแบบที่ลาบเมืองทั่วไปอาจจะให้ไม่ได้ ยิ่งกินกับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งอร่อยเหาะ เหมือนได้วาร์ปไปอยู่กลางหมู่บ้านอาข่าเลย!

ผัดผักเชียงดาใส่ไข่:
เมนูยอดฮิตของภาคเหนือที่ใครมาก็ต้องสั่ง! ผักเชียงดาสดๆ จากไร่ของชาวบ้าน เอามาผัดกับไข่แบบง่ายๆ แต่ได้ความหวานกรอบของผักเต็มๆ รสชาติกลมกล่อม ไม่มันเลี่ยน กินเพลินๆ ได้ประโยชน์เต็มๆ เป็นเมนูที่แสดงให้เห็นถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบและฝีมือการปรุงที่ไม่ต้องซับซ้อนก็อร่อยได้!

ผัดกะเพรา :
ไหนลองสั่งเมนูเบสิกๆ อย่างผัดกะเพรามาดูซิว่าจะเด็ดแค่ไหน ปรากฏว่ารสชาติก็ทำได้ดีเหมือนร้านอาหารทั่วไปในภาคเหนือเลย ไม่ได้จัดจ้านเผ็ดร้อนมาก แต่มีความกลมกล่อมลงตัว และเมื่อบวกกับบรรยากาศหลักล้านบนดอยที่ลมเย็นๆ พัดมาตลอดเวลา บอกเลยว่ากินกะเพราจานนี้แล้วฟินกว่ากินในเมืองเยอะ! เหมือนกินข้าวริมผาแล้วมีเชฟอาข่ามาทำให้ยังไงยังงั้น!
เมนูเครื่องดื่ม
อันที่จริง เขาก็เป็นร้านกาแฟนะ แล้วพวกเขาโตมากับกาแฟอยู่แล้ว เรื่องการคัดเลือกเมล็ด การคั่ว มั่นใจได้ว่า “ต้นฉบับ” แน่ๆ แต่ อีทเรดาร์ ไม่สั่ง เพราะไปสะดุดกับเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจ และหากินยาก เช่น กาแฟนมบะป๊าว (มะพร้าว), กาแฟนมบ่านาวน้ำผึ้ง,กาแฟส้มเมืองฝาง, โหน่ยกะทกรกปั่น (เสาวรส) ,มะเต้าปั่น (แตงโม) ฟังดูก็เหมือนเมนูทั่วไปใช่ป่าว แต่เราสะดุดที่ ชานมเพื่อนบ้าน (พม่า)

ไม่ใช่แค่ชาไทย! มาที่นี่ต้องลองชานมเพื่อนบ้าน (พม่า) แก้วนี้ ชานมสีนวลๆ ที่ไม่ใส่สีเหมือนชาไทย แต่ความพิเศษอยู่ที่ท็อปปิ้งนี่แหละ! มีทั้งดอกดาวเรือง ดอกโป๊ยกั๊กที่เพิ่มความหอมเป็นพิเศษ และยังมีก้านอบเชยยาวๆ วางมาให้คนชาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้ฟุ้งขึ้นไปอีก แค่ยกขึ้นมาจิบก็ได้กลิ่นหอมละมุนติดจมูกแล้ว ลองคนๆ ให้เครื่องเทศเข้ากันนะ ยิ่งหอม ยิ่งกลมกล่อม ยิ่งฟิน! เหมือนได้จิบชาในวังเจ้าหญิงเลยก็ว่าได้!
เสริฟมาแบบนี้เหรอ จะให้นั่งอยู่ในร้าน ไม่มีทาง ออกหามุมไปนั่งฟินๆ ระเบียงหลังร้าน ถ่ายรูปอวดไปเลย

บทสรุป
“กาแฟบ้านลุงมา” ไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหารหรือคาเฟ่ธรรมดาๆ บนดอย แต่เป็นเหมือนประตูสู่โลกอีกใบที่เราจะได้สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม และรสชาติอาหารพื้นถิ่นของชาวอาข่าแท้ๆ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสุดชิลล์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารชนเผ่ารสจัดจ้าน หรือชานมหอมๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุกจาน ทุกแก้ว ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวและความใส่ใจ ที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่ครบเครื่อง ทั้งวิวสวย อาหารอร่อย และประสบการณ์สุดประทับใจ ที่จะทำให้คุณอยากกลับมาซ้ำแล้วซ้ำอีกแน่นอน! และแวะพักระหว่างทางที่คุณจะได้เห็นความงามของธรรมชาติกลางดอย














