ใครจะเชื่อว่าโรงบ่มยาสูบเก่าอายุกว่า 60 ปี จะกลายร่างมาเป็นโอเอซิสสุดชิลล์ได้ขนาดนี้! ‘เก๊าไม้ล้านนา’ ไม่ใช่แค่คาเฟ่หรือที่พัก แต่มันคืออาณาจักรแห่งความทรงจำที่ถูกปลุกให้มีชีวิตอีกครั้งด้วยธรรมชาติ พร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารตา อาหารปาก และอากาศบริสุทธิ์ให้สูดกันจนเต็มปอด!
ลืมภาพเชียงใหม่ที่คุ้นเคยไปก่อน เพราะวันนี้เราจะพาวาร์ปไปสถานที่ที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังแฟนตาซี แต่ดันมีอยู่จริง! ที่นี่คือ “เก๊าไม้ล้านนา เอสเตท 1955” (Kaomai Lanna Estate 1955) อาณาจักรที่เคยเป็นโรงบ่มใบยาสูบขนาดมหึมาในอดีต แต่ปัจจุบันได้สลัดคราบโรงงาน มาใส่ชุดสีเขียวของธรรมชาติ กลายเป็นทั้งรีสอร์ท คาเฟ่ และร้านอาหารที่เท่จนต้องร้องขอชีวิต แค่ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามา ก็รู้สึกเหมือนเวลาเดินช้าลงทันที
โซนที่ 1: ประตูสู่กาลเวลา (The Museum)
พอจอดรถปุ๊บ คุณจะเจอกับอาคารอิฐแดงสูงตระหง่าน ที่ดูขลังเหมือนปราสาทเก่าในยุโรป อาคารเหล่านี้คือโรงบ่มใบยาสูบดั้งเดิม ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวของที่นี่ ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของอุตสาหกรรมยาสูบจนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้านในจัดแสดง Timeline และข้าวของเครื่องใช้ในอดีต ให้ฟีลเหมือนเรากำลังเดินย้อนเวลากลับไปสำรวจประวัติศาสตร์ที่จับต้องได้
และสำหรับใครที่สงสัยว่าท่อเหล็กใหญ่ๆ ในอาคาร มันคืออะไร? เฉลยเลย…มันคือ ท่อส่งความร้อน (Flue) ครับ! ในสมัยก่อน เค้าจะใช้เตาเผาส่งความร้อนผ่านท่อพวกนี้ เพื่อควบคุมอุณหภูมิในการบ่มใบยาสูบให้แห้งได้ที่ เป็นภูมิปัญญาที่โคตรเจ๋งเลยล่ะ
โซนที่ 2: ปอดของเชียงใหม่ (The Garden)
เดินทะลุโซนประวัติศาสตร์ออกมา คุณจะเหมือนถูกโยนเข้าไปในป่าดิบชื้น! สนามหญ้าเขียวขจีกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ยักษ์ที่มีอายุนับร้อยปี ตึกเก่าที่ถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยจนกลายเป็นสีเขียวทั้งหลัง มันเป็นวิว 360 องศาที่มองไปทางไหนก็สบายตา เหมือนธรรมชาติกำลังโอบกอดเราอยู่ แค่ได้มาเดินทอดน่องชิลล์ๆ ก็รู้สึกเหมือนได้ชาร์จพลังชีวิตจนเต็มหลอดแล้ว
โซนที่ 3: คาเฟ่โรงบ่ม (Café Rong Bom)
นี่คือไฮไลต์ที่สายคาเฟ่ต้องกรี๊ด! ตัวคาเฟ่ดัดแปลงมาจากโรงบ่มเก่า โครงสร้างเป็นเหล็กและกระจกใสบานใหญ่สูงจรดเพดาน ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ แต่ยังคงผนังอิฐเดิมๆ เอาไว้ ให้ความรู้สึกดิบเท่แบบอินดัสเทรียลลอฟท์ที่ผสมกับความกรีนของต้นไม้ด้านนอกได้อย่างลงตัวสุดๆ เหมือนนั่งจิบกาแฟอยู่ในเรือนกระจกกลางป่าไม่มีผิด


และเมนูที่มาแล้วไม่สั่งถือว่าผิด! “เค้กมะเกี๋ยงเก๊าไม้” หรือชีสเค้กหน้าลูกหว้า ผลไม้พื้นบ้านรสเปรี้ยวอมหวาน ตัวชีสเค้กเนื้อเนียนนุ่ม ตัดกับรสชาติและความหอมเฉพาะตัวของซอสมะเกี๋ยงสีม่วงสด บอกเลยว่ามันสดชื่นและอร่อยลงตัวแบบหากินที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ แน่นอน
โซนที่ 4: เตาชา (Tao Tea)
ถัดจากคาเฟ่ไปไม่ไกล จะเจออาคารเล็กๆ สุดมินิมอล ที่ชื่อว่า “เตาชา” ความเก๋ของที่นี่คือการออกแบบให้ที่นั่งจิบชาอยู่ต่ำลงไปในระดับพื้นดิน ทำให้มุมมองของเราอยู่ใกล้ชิดกับสวนสวยด้านนอกมากขึ้น เป็นการสร้างประสบการณ์การดื่มชาที่สงบและแตกต่างอย่างแท้จริง
โซนที่ 5: ร้านอาหารมีชีวิต
ใครที่หิวจริงจังต้องโซนนี้เลย ร้านอาหารของที่นี่เป็นอาคารหลายชั้น โปร่งโล่ง ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง มุมเด็ดคือโต๊ะที่อยู่ชั้นบน ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นวิวของร้านและสวนด้านล่างได้แบบเต็มตา เป็นมุมที่สวยจนลืมกินข้าวไปเลย!
โซนที่ 6: บ้านในต้นไม้ (Kaomai Resort)
และแน่นอน ที่นี่คือรีสอร์ท! ห้องพักของเก๊าไม้ล้านนาก็คือโรงบ่มเก่าที่ถูกรีโนเวทนั่นแหละ โดยภายนอกยังคงเป็นอาคารอิฐที่ถูกปกคลุมด้วยต้นตีนตุ๊กแกจนเขียวครึ้มไปทั้งหลัง ให้ฟีลเหมือนได้นอนในบ้านต้นไม้สุดคลาสสิก เป็นการพักผ่อนที่ได้ซึมซับทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน
สรุป


“เก๊าไม้ล้านนา” ไม่ใช่แค่ที่แวะถ่ายรูปสวยๆ แล้วกลับ แต่มันคือประสบการณ์ คือการพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่อดีตกับปัจจุบันอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ที่นี่สอนให้เรารู้ว่าของเก่าไม่จำเป็นต้องถูกทิ้งเสมอไป แต่สามารถนำมาเล่าเรื่องใหม่ได้อย่างโคตรเท่ ใครที่เบื่อความวุ่นวายในเมืองแล้วอยากหาที่ฮีลใจแบบจริงจัง…ที่นี่คือคำตอบสุดท้าย!
การเดินทาง:

พิกัด: อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ (ขับรถจากตัวเมืองไม่นาน)































